Share

บทที่ 7 อยากพบคนใหญ่โต   

"พี่ใหญ่ของพี่เป้า นั่นไม่ใช่คุณชายสามหรอกหรือ?"

เสิ่นเทียนเม่ยหัวเราะพรืดเอ่ยขึ้นว่า "หลี่เฟิง นายรู้ไหมว่าคุณชายสามเป็นตัวตนระดับไหน? นั่นมันคนใหญ่โตที่ถนัดเรื่องเส้นสายช่องทางเลยนะ ขนาดพ่อบุญธรรมชั้นยังต้องเรียกเคารพเรียกเขาว่าเจ้าพ่ออยู่เลย! แล้วนี่กล้ามาบอกว่าคุณชายสามมาขอขมานายหรือ อยากตายใช่หรือเปล่านายน่ะ?"

"เสิ่นเทียนเม่ย ถ้าเธอไม่เชื่อ เธอจะตามมาดูก็ได้นะ"

หลี่เฟิงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ ผลคืถูกเสิ่นเทียนเม่ยมองบนใส่

โจวไท่ตั้งตัวกลับมาได้จากอาการตกตะลึง หัวเราะเอ่ยขึ้นว่า "ชั้นคิดว่าเขาคงเห็นรถของคุณชายสามที่ประตู แล้วจงใจพูดขึ้นมาแน่ๆ โชคดีที่พวกเราไม่มีคนนอกอยู่ ไม่อย่างนั้นถ้าคำพูดนี้ตกไปถึงหูคุณชายสาม คงได้บ้านแตกล้มตายกันหมด"

คนทั้งหมดผวากันขึ้นมา

"ชั้นทนมาพอแล้ว!" หลิ่วฮุ่ยฟางตบโต๊ะ เอ่ยขึ้นอย่างโมโห "วันๆ เอาแต่แกล้งเป็นบ้าแกล้งโง่ ทำพวกเราขายหน้า แกรีบไสหัวไปเลย ถ้าไม่รีบไปชั้นจะตีแกให้ตายเลยคอยดู!"

"หลี่เฟิง เธอรีบไปเถอะ...เดี๋ยวชั้นกินข้าวเสร็จแล้วจะกลับไปนะ"

ฉินชิงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกจนอยากจะขุดหลุมหนีแล้ว ลุกขึ้นดันหลี่เฟิงออกไป

หลี่เฟิงจำใจเอ่ยขึ้น "ถ้าอย่างนั้นก็ได้ คุณภรรยา เธอดื่มเหล้าน้อยหน่อยนะ อีกเดี๋ยวชั้นมารับ"

พอหลี่เฟิงไป ในห้องเหมาก็เงียบลงมา

หลิ่วฮุ่ยฟางดื่มชาลงไปหลายแก้วติดต่อกัน จึงระงับความโกรธในอกลงมาได้

โจวไท่กลับไม่สนใจ หลี่เฟิงยิ่งทำตัวน่าขายหน้าแค่ไหน โอกาสที่เขาจะได้ฉินชิงมาก็มากขึ้นเท่านั้น อยากจะให้หลี่เฟิงมันแกล้งบ้าแกล้งโง่ไปเรื่อยๆ เสียจริง

……

"คุณชายสาม วันนี้คุณเชิญใครมาหรือ?"

"เชิญมาห้องอิมพีเรียลก็เรื่องนึง แต่นี่ยังเชิญพวกเรามาเป็นเพื่อนด้วย ทำแบบนี้ดูยิ่งใหญ่เกินไปแล้ว"

ชั้นเก้า ประตูลิฟท์ห้องอิมพีเรียล

ชายหญิงวัยกลางคนกลุ่มหนึ่งกำลังสอบถามคุณชายสาม

ถ้าหากมีคนเห็นพวกเขาจะต้องรู้จักอย่างแน่นอน

เกาเจิ้นเฉียงอันดับหนึ่งระบบออกแบบเมือง หลินฝูเจี้ยนประธานกรรมการธนาคารเมืองหลัน หลี่เซียงจวินประธานเครือโจวลิ่วเซิงค้าประดับ...

คนเหล่านี้ ทุกคนล้วนเป็นคนใหญ่โตที่แค่กระทืบเท้าก็ดังลั่นตึงๆๆ ไปทั้งเมืองหลันแล้ว!

คุณชายสามเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา "ตัวตนฐานะเขา ยังคงเป็นความลับสุดยอด เชิญพวกคุณมาร่วมงานก็เพื่อให้บรรยากาศคึกคักน่ะ นี่ถือเป็นเกียรติของพวกคุณเลยนะ และเพราะความสัมพันธ์อันดีถึงได้พาพวกคุณมา"

"สรุปก็คือ จดจำคำของผมไว้ อย่าได้ผิดใจกับเขาเด็ดขาด!"

ตัวตนลับสุดยอด?

หลายคนจึงเห็นเจ้าพ่อผู้ที่เห็นลมเห็นคลื่นมาจนชิน ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนก็สามารถยิ้มรับได้ตลอด เกิดความตึงเครียดขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

"แล้วพวกเราควรจะเรียกเขาว่าอย่างไรล่ะ?"

"เรียก?"

คุณชายสามคิดๆ เรียกเขาว่า "คุณชายหลี่" ก็น่าจะดี

"ติ๊ง!"

ประตูลิฟท์เปิดออก เผยให้เห็นใบหน้าของหลี่เฟิง

พวกของเกาเจิ้นเฉียงตะลึงงันไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าคนใหญ่โตที่ว่าจะยังหนุ่มขนาดนี้!

"คุณชายหลี่มาแล้ว!"

คุณชายสามเข้าไปต้อนรับทันที ใช้มือเข้าไปบังประตูลิฟท์ที่กำลังจะปิด ให้หลี่เฟิงค่อยๆ เดินออกมาได้อย่างไม่ต้องรีบต้องร้อน

"ยินดีที่ได้พบคุณชายหลี่!"

คนใหญ่โตหลายคนเก็บความตกตะลึงลงมา เดินขึ้นหน้าไปคำนับให้หลี่เฟิงอย่างนอบน้อม

จากนั้น ก็ยื่นนามบัตรของตนเองให้กับหลี่เฟิง

พอมาถึงโต๊ะอาหาร หลินฝูเจี้ยนประธานกรรมการธนาคารเมืองหลัน ก็ยื่นกล่องของขวัญประณีตใบเล็กที่เตรียมไว้แล้วล่วงหน้าออกมา

"คุณชายหลี่ นี่เป็นน้ำใจเล็กน้อยที่พวกเราเตรียมไว้ให้คุณ"

"ในกล่องนี้คือแบล็คการ์ดของธนาคารเมืองหลัน หลังจากนี้คุณคือแขกวีไอพีที่สำคัญที่สุดของธนาคารเรา"

"เกรงใจไปแล้ว"

หลี่เฟิงรับมา โบกไม้โบกมือเอ่ยขึ้นว่า "ในเมื่อมากินข้าว ถ้าอย่างนั้นก็เป็นกันเองหน่อย ทุกคนไม่ต้องเขินกันนัก"

หลังจากวนดื่มสุราครบสามรอบ อาหารเลิศรสผ่านไป แขกทุกคนก็สนุกสนานครื้นเครง

ตอนที่กินกันพอสมควร หลี่เฟิงก็ลุกขึ้นยืน "วันนี้เท่านี้ก่อนแล้วกัน ชั้นยังต้องลงไปรับภรรยาของชั้นอีก"

พอส่งหลี่เฟิงออกประตูไป คุณชายสามก็หันหน้ามากำชับกับลูกน้อง

"ไปตรวจสอบว่าคุณหนูฉินนั้นอยู่ห้องเหมาไหน แล้วจัดการจ่ายเงินให้เสีย!"

งานเลี้ยงในห้องเฟิงเยว่ยังคงดำเนินต่อ

ระหว่างงานโจวไท่เดินออกมารอบหนึ่ง ตอนที่กลับเข้ามาอีกครั้ง ก็พาคนหนุ่มสาวเข้ามาอีกหลายคน

คนหนุ่มที่นำหน้าเข้ามาคนนั้น ดวงตามีเสน่ห์จิตวิญญาณ ใบหน้ากระตือรือร้น

"แนะนำเสียหน่อย คนนี้คือลูกชายของเกาเจิ้นเฉียงอันดับหนึ่งระบบออกแบบเมือง เกาเฟย!"

โจวไท่แนะนำคนหนุ่มนี้อย่างเกรงอกเกรงใจ

ทันใดนั้น ทุกคนในห้องเหมาล้วนลุกขึ้นยืน แสดงความเคารพ

"เสี่ยวโจว คิดไม่ถึงเลยว่าขนาดอัจฉริยะฟ้าประทานอย่างคุณชายเกาเธอก็ยังรู้จักด้วย!"

หลิ่วฮุ่ยฟางยิ้มตาหยี ข้าวยังกินกันไม่เสร็จ แต่คำเรียกโจวไท่ก็เปลี่ยนไปเสียแล้ว

โจวไท่หัวเราะเอ่ยตอบ "คุณชายเกาอยากจะรู้จักกับเสี่ยวเสิ่นเสียหน่อยน่ะครับ พอได้ยินว่าเธอมากินข้าวกับพวกเรา จึงเข้ามาชนแก้วด้วยเป็นพิเศษ"

เสิ่นเทียนเม่ยงงงัน และก็พบว่าพอเกาเฟยเข้าประตูมา สายตาก็จ้องปริบๆ มายังตนเอง

สายตาแบบนี้เสิ่นเทียนเม่ยเห็นมาเยอะแล้ว จึงยิ้มละไมยื่นมือออกไป "คุณชายเกาอยากรู้จักชั้น โทรศัพท์มาก็พอแล้ว ทำไมจะต้องเหนื่อยเข้ามาหาด้วย"

"ได้ยินมานานแล้วว่าคุณหนูเสิ่นเป็นสาวสวยเลื่องชื่อของเมืองหลัน จึงอยากมาพบเสียหน่อยน่ะ"

พอได้ยิน เสิ่นเทียนเม่ยก็หน้าแดง

สายตาของเกาเฟยยิ่งร้อนแรงขึ้นมา แต่เร่งร้อนไปก็ใช่ที จึงโบกมือเอ่ยขึ้นว่า "เอาเถอะ อันที่จริงผมก็มากับคุณพ่อด้วย ได้ยินว่าเจ้าพ่อคุณชายสามวันนี้จัดงานเลี้ยงให้กับคนใหญ่โตคนหนึ่งที่ห้องอิมพีเรียลชั้นเก้า แล้วเรียกคุณพ่อให้มาร่วมงานด้วย ผมก็เลยตามมาเปิดโลกเสียหน่อย"

"แต่ผลลัพธ์กลายเป็นว่าถูกคุณชายสามแจ้งมา ว่าเด็กน้อยอย่างพวกเราไม่มีคุณสมบัติจะขึ้นไป"

เกาเฟยทำท่าทางจนใจ แต่ความภาคภูมิใจในสายตาก็ยังซ่อนไม่มิด

แม้จะไม่ได้เจอคนใหญ่โต แต่รุ่นพ่อๆ ของพวกเขาก็ยังได้พบนี่นะ ทั้งเมืองหลันจะมีสักกี่คนที่มีคุณสมบัติไปพบคนใหญ่โตคนนี้

ทุกคนล้วนงงงันไป

พวกของหลิ่วฮุ่ยฟางคิดถึงคำพูดหลี่เฟิงก่อนหน้านี้ หรือว่าหลี่เฟิงจะเป็นคนใหญ่โตที่ว่านั่น?

แต่เพียงไม่นาน พวกเขาก็แอบส่ายหัว คนบ้าที่เพิ่งจะหายดีไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าคนใหญ่โตเอาเสียเลย

เสิ่นเทียนเม่ยเอ่ยก็ถามขึ้นอย่างประหลาดใจ "คนใหญ่โตที่ทำให้คุณชายสามต้องมาจัดงานเลี้ยงที่ห้องอิมพีเรียลนี่ยิ่งใหญ่ขนาดไหนกันนะ!"

เกาเฟยเอ่ยขึ้นอย่างภูมิใจ "ตัวตนฐานะของนายท่าน ขนาดพ่อของผมก็ยังไม่ค่อยชัดเจนเลย รู้แค่ว่า คนผู้นี้มีความสัมพันธ์กับผู้บัญชาการทหารสูงสุดเซวียที่ขึ้นรับตำแหน่งใหม่ด้วย"

คนในห้องเฟิงเยว่สูดปาก

ช่วงนี้ เมืองหลันมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นสองเรื่อง เรื่องแรกคือเทียนเฟิงกรุ๊ปเข้ามาปักหลักในเมืองหลันอย่างเอิกเกริก อีกเรื่องหนึ่ง ก็คือผู้บัญชาการทหารสูงสุดเซวียจั้นหลงเข้ารับตำแหน่งใหม่ในหน่วยสงครามของเมืองหลันทันที!

คนใหญ่โตนี้มีความสัมพันธ์กับเซวียจั้นหลงด้วย เช่นนั้นก็คงจะสุดยอดเอามากๆ นั่นล่ะ!

พอเห็นเสิ่นเทียนเม่ยหูผึ่งขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณ เกาเฟยก็หัวเราะเอ่ยขึ้นว่า "อีกเดี๋ยวพองานเลี้ยงในห้องอิมพีเรียลจบ ตอนที่ลงไปข้างล่าง ผมพาพวกคุณไปแนะนำเสียหน่อยก็ได้"

"ดีเลยดีเลย!"

คนทั้งหมดตื่นเต้นกันจนหน้าแดงก่ำ

  

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status